Date:
September 22, 23
BOI คืออะไร
หลายๆ ท่านมีข้อสงสัยว่า BOI คืออะไร วันนี้ LISSOM มาอธิบาย เพื่อไขข้อสงสัยกันค่ะ ความหมายของคำว่า BOI คือคำย่อมาจาก Board of Investment หรือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นหน่วยงานที่ช่วยส่งเสริมการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในกลุ่มประชาคมอาเซียน อีกทั้งยังดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติมาลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจตลอดจนถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆกับนักลงทุนที่สนใจให้ประเทศไทยเป็นฐานในการผลิตและส่งออก ดังนั้นหมายความว่าไม่ใช่ทุกบริษัทที่จะสามารถได้รับพิจารณาในการได้รับการส่งเสริมการลงทุนกับ BOI โดยทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI ตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ในการยื่นคำขออนุญาตในแต่ละประเภทธุรกิจ
ประเภทกิจการที่ BOI ให้การส่งเสริมการลงทุน
1. เกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร เช่น การปรับปรุงพันธุ์พืช การปลูกไม้เศรษฐกิจ หรือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
2. แร่ เซรามิกส์ และโลหะพื้นฐาน เช่น การทำเหมืองแร่ ผลิตภัณฑ์แก้ว การผลิตเหล็กทางต่างๆ
3. อุตสาหกรรมเบา เช่น ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ผลิตกระเป๋าหรือรองเท้า การผลิตเครื่องมือแพทย์และชิ้นส่วน
4. ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง เช่น การผลิตเครื่องยนต์และชิ้นส่วนยานพาหนะ
5. อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน การผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์
6. เคมีภัณฑ์ พลาสติก และกระดาษ เช่น การผลิตพลาสติก การผลิตสิ่งพิมพ์ การผลิตยา
7. กิจการบริการและสาธารณูปโภค เช่น กิจการขนส่งมวลชน กิจการเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว
8. การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น การพัฒนาดิจิตอลเทคโนโลยี การพัฒนานาโนเทคโนโลยี
สิทธิประโยชน์ของ BOI ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆได้แก่
- สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากร
1. ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร
2. ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรส่วนหนึ่ง
3. ยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบผลิตเพื่อส่งออก
4. ยกเว้นภาษีและลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล
5. หักลดค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าขนส่งครึ่งนึง
6. หักค่าใช้จ่ายในส่วนของก่อสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวก นอกเหนือจากหักค่าเสื่อม
7. ยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ
- สิทธิประโยชน์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษีอากร
1. อนุญาตให้คนต่างชาติทำงานในไทยได้
2. อนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้น 100%
3. อนุญาตให้คนต่างชาติ คู่สมรส หรือลูก เข้ามาในไทยได้
4. อนุญาตให้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน
5. ชาวต่างชาติสามารถส่งเงินหรือโอนเงินไปต่างประเทศได้
ขั้นตอนการขอรับส่งเสริมการลงทุน
1. นักลงทุนที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเบื้องต้นได้ที่ บีโอไอส่วนกลาง ภูมิภาค หรือสำนักงานต่างประเทศ หรือ Website : www.boi.go.th
2. ผู้ที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนต้องยื่นคำขอออนไลน์เท่านั้น ผ่านระบบ e-Investment Promotion ทาง www.boi.go.th
3. นัดหมายเจ้าหน้าที่บีโอไอผู้รับผิดชอบโครงการ เพื่อชี้แจ้งโครงการ ภายใน 10 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่ยื่นคำขอ
4. เจ้าหน้าที่บีโอไอดำเนินการวิเคราะห์โครงการ โดยใช้ระยะเวลาการพิจารณาตามขนาดการลงทุน
- ลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท พิจารณาภายใน 40 วัน นับตั้งแต่วันที่ยื่นคำขอ
- ลงทุนไม่เกิน 2,000 ล้านบท พิจารณาภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ยื่นคำขอ
- ลงทุนมากกว่า 2,000 ล้านบาท พิจารณาภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ยื่นคำขอ
5. บีโอไอจะดำเนินการแจ้งผลการพิจารณา ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่รับรองรายงานการประชุม
6. ผู้ขอรับการส่งเสริมการลงทุนตอบรับการส่งเสริม ภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่ได้รับหนังสือแจ้งการอนุมัติ โดยรับได้ 2 ช่องทาง
- กรอกแบบฟอร์มผ่านระบบ e-Investment Promotion ทาง www.boi.go.th
- ยื่นแบบตอบรับมติการส่งเสริมการลงทุน (แบบฟอร์ม F GA CT 08)
7. ผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนยื่นขอรับบัตรส่งเสริม พร้อมหลักฐานประกอบการพิจารณา ภายใน 6 เดือน ได้ 2 ช่องทาง
- กรอกแบบฟอร์มผ่านระบบ e-Investment Promotion ทาง www.boi.go.th
- กรอกแบบประกอบการขอรับบัตรส่งเสริม (แบบฟอร์ม F GA CT 08) พร้อมยื่นเอกสารหลักฐานประกอบการออกบัตร
8. บีโอไอจะดำเนินการออกบัตรส่งเสริม ภายใน 10 วันทำการ นับจากวันที่สำนักงานได้รับแบบฟอร์มขอรับบัตรส่งเสริมและหลักฐานครบถ้วน
ผู้ประกอบการที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน ต้องมีความละเอียดรอบคอบในด้านการจัดเตรียมเอกสารว่าถูกต้องครบถ้วนตามคู่มือยื่นคำขอ BOI และ การตรวจสอบเงื่อนไขว่าตรงกับหลักเกณฑ์ที่ BOI กำหนด จะทำให้ธุรกิจได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ดีต่อธุรกิจแน่นอน
แหล่งที่มา : https://bit.ly/2K042Wr
https://bit.ly/2VtgOSC
https://bit.ly/2XK9F3t